วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หมอนสุขภาพ Healthy Pillow

หมอนสุขภาพ Healthy Pillow


การนอนหลับ เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
และเป็นเหมือนการชาร์จแบตให้กับร่างกาย
แต่บางคนกับพบปัญหาเกี่ยวกับการหลับยาก ทำให้หลับไม่เต็มที่ หลับไม่เพียงพอ

วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดคือการเลือกหมอนสุขภาพ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เหมาะต่อการนอน
และยังมีคุณสมบัติที่ทำให้หลับง่ายขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น หมอนยางพารา หมอนขนเป็ด
หมอนขนห่าน หมอนหนุนคอ หมอน memory foam หรือแม้กระทั้งหมอนนกกระจอกเทศ
หมอนสุขภาพ มีราคาตั้งแต่ปานกลาง จนถึงราคาสูง
เพราะทำจากวัสดุอย่างดีเพื่อผลลัพธิ์ที่เห็นได้ชัด


  

   


   การนอนหลับมีความสำคัญมากเพราะจะทำให้ร่างกายที่ใช้พลังงานมาตลอดทั้งวันได้รับการพักผ่อน ถ้าหากนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอภาวะของกล้ามเนื้อจะเกิดการตรงตัวร่างกายมีความเครียดและควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ การเลือกเครื่องนอนที่ดีจึงมีความสำคัญต่อการนอนที่มีประสิทธิภาพของเรา การเลือกหมอนที่ดีจะทำให้ร่างกายของเราไม่เกิดภาวะเจ็บปวด ภาวะกล้ามเนื้อที่เกิดจากการปวดคอหรือการปวดหลังก็จะลดลง น้ำหนักที่ลงต่อศีรษะหรือการกดทับของหลอดเลือดหัวใจก็จะลดลง

ความเหมือนที่แตกต่าง กับ หมอนสุขภาพ
ท้องตลาดในปัจจุบันนี้มีหมอนวางขายกันอย่างหลากหลาย ทั้งหมอนหนุนหัว หมอนข้าง หมอนรองหลัง หรือหมอนรองนั่ง ซึ่งหมอนแต่ละประเภทก็ใช้วัสดุที่แตกต่างกันออก และด้วยผู้คนให้ความใส่ใจกับสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้หมอนที่ผลิตจากเมมโมรี่โฟม และยางพาราเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ

  แล้วจะมีสักกี่คนที่รู้จักหมอนทั้งสองประเภทนี้จริงๆ ด้วยความที่วัสดุทั้ง 
ประเภทนี่มีลักษณะทั้งกายใช้งาน รูปลักษณ์ และคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน ทำให้คนส่วนใหญ่สับสนและเข้าใจผิด งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าหมอนทั้ง แบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร


  หมอนสุขภาพยางพารา ผลิตมาจากน้ำยาง ทั้งจากน้ำยางธรรมชาติ และน้ำยางสังเคราะห์ โดยยางสังเคราะห์นั้นได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม สังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบยางธรรมชาติ ซึ่งถูกผลิตออกมาหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่สำหรับยางธรรมชาตินั้นเป็นผลผลิตจากต้นยางพารา นำมาผ่านกระบวนการผลิต โดยอาจมีการเติมสารเคมีบางชนิดที่ไม่เป็นอันตราย เช่น แอมโมเนีย น้ำใส กำมะถัน เป็นต้นเพื่อให้ได้เนื้อยางพาราที่ต้องการ หมอนยางพาราจึงมีสมบัติที่ดีหลายประการเช่น มีความหนาแน่นและความยืดหยุ่นสูง คืนสภาพได้เร็ว ระบายอากาศได้ดี ทนทาน ไม่มีอันตรายจากสารเคมีตกค้างหากเป็นหมอนจากยางพาราแท้ และรองรับสรีระเป็นต้น แต่อาจมีราคาที่สูงกว่าหมอนทั่วไป ใช้ไปนานๆอาจมีการเปลี่ยนสีของเนื้อยางได้.

  หมอนสุขภาพเมมโมรี่โฟม เป็นวัสดุที่ผลิตจากโพลียูรีเทน ซึ่งโพลียูรีเทนถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ทดแทนยางธรรมชาติในช่วงสงครามซึ่งมีคุณสมบัติทนทาน ยืดหยุ่นได้ดี มีความเหนียว ทนต่อแรงกดแรงกระแทก และรับน้ำหนักได้ดี เมมโมรี่โฟมนั้นได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มความหนืด ความเหนียวทำให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงตามแรงกดทับของสรีระ จึงช่วยลดแรงกดทับ สามารถคืนตัวกลับสู่สภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว และเมมโมรี่โฟมมีความหนาแน่นสูงกว่าโฟมชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการระบายอากาศสูง ช่วยระบายความร้อนได้ดี จึงไม่เกิดความอับชื้น มักถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์ สำหรับผู้ปวดเมื่อย ปวดคอ นอนกรน ผู้พักฟื้นหลังผ่าตัด หรือผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ.

      หมอนสุขภาพ ทั้งสองประเภทนี้ถึงภายนอกอาจดูคล้ายกัน จนใครหลายคนก็คิดว่ามันไม่ต่างใช้หมอนใบไหนก็ได้สุขภาพทั้งนั้น หมอนทั้งสองประเภทอาจตอบโจทย์ทางด้านสุขภาพการนอน แต่จากบทความข้างต้นนั้น คุณจะพบว่าหมอนทั้งสองใบนี้ไม่เหมือนกันเลย ต่อไปนี้การเลือกหมอนเพื่อสุขภาพทั้ง หมอนสุขภาพยางพารา และ หมอนสุขภาพเมมโมรี่โฟม คงไม่เป็นเรื่องน่าสับสนสำหรับคุณอีกต่อไป

  ‘หมอน’ เป็นอุปกรณ์ในการนอนที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่ง นอกเหนือไปจากที่นอนหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal มีรายงานในเรื่องนี้จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญการนอนที่ศูนย์การนอนในนครนิวยอร์ค

พญ. Ana C. Krieger ผู้อำนวยการทางการแพทย์ของ Center for Sleep ที่ New York-Presbyterian/Weill Cornell Medical Center บอกว่า หมอนที่รองรับช่องว่างระหว่างศีรษะกับที่นอน เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญต่อสุขภาพของเรามาก เพราะหมอนที่ถูกต้องจะจัดให้สะโพก หลังและคอของเราเข้าที่และทำให้กระดูกสันหลังของเรารักษาระดับตรงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
และแม้หมอนสมัยนี้จะมีให้เลือกอย่างหลากหลาย คุณหมอ Ana จัดหมอนไว้สองประเภทใหญ่ คือหมอนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่นขนนุ่มละเอียดของสัตว์ปีก และที่เป็นวัสดุสังเคราะห์ เช่นโฟม และยาง Latex

คุณหมอบอกว่า ข้อดีของวัสดุธรรมชาติ คือไม่ค่อยจะมีไรฝุ่น พับหรือจัดรูปง่าย นอกจากนี้ยังรักษาความเย็น และมีอายุการใช้งานนาน ในขณะที่หมอนทำจากวัสดุสังเคราะห์มีข้อดีตรงที่รักษารูปและระดับความสูง แต่อายุใช้งานนานราวๆ ครึ่งหนึ่งของหมอนธรรมชาติเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการนอนผู้นี้แนะนำวิธีการเลือกหมอนไว้ว่า ประการแรก ผู้ซื้อจะต้องรู้ตัวเสียก่อนว่า ชอบนอนในลักษณะไหน นอนหงาย นอนคว่ำ หรือนอนตะแคงข้าง ต่อจากนั้นกำหนดความสูงและความหนาที่รู้สึกสบาย สุดท้ายเลือกประเภทและคุณภาพของหมอน

ถ้าลังเลสงสัย ตัดสินใจไม่ได้ คุณหมอ Ana แนะนำว่า กัดฟันซื้อสองสามชนิดที่แตกต่างกัน แล้วทดลองใช้สักสองสามเดือน

ข้อควรระวังสำหรับคนที่ชอบนอนหงาย ต้องระวังอย่าใช้หมอนที่ทำให้ศีรษะสูงกว่าคาง เพราะอาจทำให้ปวดต้นคอ คนที่ชอบนอนคว่ำก็ไม่ควรใช้หมอนที่ยกศีรษะสูงเกินไปเช่นเดียวกัน

อีกข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือคนเราเปลี่ยนท่านอนโดยเฉลี่ยแล้วชั่วโมงละครั้ง เพราะฉะนั้นต้องแน่ใจว่าชนิดของหมอนที่เลือกจะทำให้นอนได้สบายตลอดทั้งคืน ซึ่งหมายความว่าสะโพก หลังและคอของเราเข้าที่และทำให้กระดูกสันหลังของเรารักษาระดับตรงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

ข้อแนะนำส่งท้ายจากคุณหมอ Ana คือ ควรเปลี่ยนหมอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ทุกๆสองหรือสามปี และห้าถึงหกปีสำหรับหมอนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ

และหมอนควรมีผ้าหุ้มก่อนจะสวมด้วยปลอกหมอนที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ เพราะช่วยกันไรฝุ่นและลดความชื้นจากเหงื่อได้

การทดสอบว่าถึงเวลาควรเปลี่ยนหมอนหรือยังนั้น สำหรับหมอนธรรมชาติ ถ้าตบแล้วฟื้นสภาพคืนความสูง นับว่ายังใช้ได้ ส่วนหมอนสังเคราะห์นั้น ถ้าพับแล้วไม่คืนที่ หมายความว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนเหมอนแล้ว.

  หมอนสุขภาพ ผลิตจากฟองยางพาราธรรมชาติ มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของหมอนยางพารา ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ใหม่ของการนอนที่แตกต่าง นุ่มและยืดหยุ่นในแบบของหมอนยางพาราและต่อไปนี้คือเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากเลือกใช้หมอนยางพาราจาก ORIGINAL
-     Naturally Conforms
หมอนยางพารามีความนุ่มสบาย ช่วยกระจายแรงกดทับ ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต พิเศษด้วยคุณสมบัติในการรองรับและโอบกระชับศีรษะอย่างสมบูรณ์แบบในทุกท่วงท่าของการนอน พร้อมทั้งการระบายอากาศที่ดีของหมอนยางพารา ทำให้หมอนไม่อับชื้น และทำให้ศีรษะเย็นสบายตลอดเวลาที่นอนหลับพักผ่อน
-     Healthy Choice
ด้วยคุณสมบัติพิเศษ "Hypo-allergenic" หมอนยางพาราจึงเป็นหมอนที่ปราศจากไรฝุ่น และเชื้อโรคชนิดต่างๆ ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งานที่ต้องมีการสัมผัสกับผิวหนังอยู่ตลอดเวลา
-     Perfectly Resilient

 ความยืดหยุ่น และคุณสมบัติที่ดีในการคืนตัวของหมอนยางพารา ทำให้อายุการใช้งานของหมอนยางพารายาวยาวนานกว่า 15 ปี และตลอดอายุการใช้งานชิ้นยางพาราไม่แตกหักเป็นผงฝุ่น ซึ่งทำให้ปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้.



ไม่มีความคิดเห็น:

ข่าวขอนแก่น